Archive for December 24th, 2007

RMF หรือ LTF จะเลือกตัวใด

December 24, 2007

นับถึงตอนนี้ ก็เหลือเพียงสัปดาห์สุดท้ายของปีแล้วนะครับ ใครที่ยังสามารถซื้อกองทุนทั้งสอง เพื่อไปช่วยลดภาษีและเพิ่มเงินออมให้ตัวเอง ก็ต้องรีบแล้วละครับ แต่ก็ยังมีหลายคนยังเลือกไม่ได้ว่าจะเลือกซื้อกองทุน RMF หรือ จะเป็น LTF ดี ยังเลือกไม่ถูก แล้วในแต่ละประเภทก็มีให้เลือกอีกตั้งหลายประเภท ยิ่งทำให้รู้สึกว่าเลือกยาก สำหรับผู้ไม่เคยซื้อกองทุนรวมมาก่อนด้วยยิ่งกลัวไปกันใหญ่ กลัวว่าจะขาดทุนหรือเปล่า จะคุ้มหรือไม่

ถ้าไม่อยากอ่านบทความคนที่ไม่รู้จักกันเช่นข้าพเจ้า ก็ตามไปอ่านหนังสือที่มีเนื้อหาดีๆ เกี่ยวกับการลงทุน เรื่องกองทุน และเรื่องออมเงินอื่นๆ ที่เขาให้ download เป็น pdf files มาอ่านได้ ฟรี ตาม link นี้ไปเลยครับ ของสมาคมบริษัทจัดการกองทุน หรือ ของกองทุนสำรองเลี้ยงชีพไทย  หนังสืออาจมีซ้ำกันบ้างนะครับ อย่าแปลกใจ เขาร่วมมือกัน

      002_1   map  001_1  004  002

สำหรับผู้ที่จะอ่าน..ของข้าพเจ้าซึ่งคิดเองบ้าง รวบรวมมาบ้างก็ตามไปด้านล่างครับ

RMF (Retirement Mutual Fund) หรือเรียกว่า “กองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ” เป็นกองทุนรวมประเภทหนึ่ง มีวัตถุประสงค์พิเศษแตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไป คือ RMF เป็นเครื่องมือหนึ่งในการสะสมเงินไว้ใช้ในวัยเกษียณ ที่รัฐบาลให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ผู้ลงทุนเพื่อเป็นแรงจูงใจ ดังนั้น RMF จึงเหมาะกับคนทุกกลุ่มที่ต้องการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนที่ยังไม่มีสวัสดิการออมเงินเพื่อวัยเกษียณ จำพวก กองทุนสำรองเลี้ยงชีพต่างๆ ทั้งของเอกชนและรัฐวิสาหกิจ หรือกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) หรือ Goverment Pension Fund ซึ่งก็คือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ของข้าราชการนั้นเอง หรืออาจจะมีสวัสดิการดังกล่าวอยู่แล้ว แต่ยังมีกำลังออมเพิ่มและต้องการมาช่วยลดภาษี

นโยบายการลงทุนของกองทุน RMF ต่างๆ ก็มีให้เลือกหลากหลายเหมือนกองทุนรวมทั่วไป ตั้งแต่กองทุนที่มีระดับความเสี่ยงต่ำ ซึ่งลงทุนในตราสารหนี้ เช่น พันธบัตร หุ้นกู้ ต่างๆ ที่เรียกเทห์ว่า Fixed Income Fund ส่วนกองทุนรวมผสม หรือพวกยืดหยุ่น จำพวก Flexible Fund ต่างๆ เป็นกองทุนที่มีระดับความเสี่ยงปานกลาง ส่วนใหญ่เป็นพวกลูกผสมระหว่างการลงทุนในตราสารหนี้และตราสารทุน และที่เสี่ยงสูงหน่อยก็คือ Equity Fund ที่มีระดับความเสี่ยงสูง เน้นลงทุนในตราสารทุน เช่น หุ้นสามัญ ในตลาดหุ้น ใบสำคัญแสดงสิทธิการซื้อหุ้น (warrant) หรือในตลาดล่วงหน้าต่างๆ จำพวก Future market ซื้อ Option ต่างๆ เป็นต้น

                            mf

ส่วนคำถาม คำตอบ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวกับ RMF ก็มีมากมาย ตาม site บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ต่างๆก็มี เช่นของ scbam ก็ดีตาม link นี้ไปได้เลยครับ มีความรู้ให้อ่านและมีเครื่องมือตัวช่วยคำนวณให้เยอะ ของบริษัทอื่นๆ เขาก็มีเหมือนกันนะครับ และข้าพเจ้าขอแนะนำอีกแหล่งความรู้สำคัญ คือของ กลต. ตามนี้ไปได้เลยครับ หรือจะไปที่ เรื่องการวางแผนทางเงิน ก่อนก็ได้ ซึ่งมีหัวข้อดีๆให้ไปดู เช่น แผนที่การลงทุน ที่พูดถึง การวางเป้าหมายและสำรวจฐานะ และรู้จักกติกาการลงทุน เป็นสิ่งที่ไม่ควรพลาดที่จะเข้าไปอ่านครับ และที่สำคัญอีกเรื่องคือ การวางแผนเพื่อวัยเกษียณ และ ความรู้อื่นๆเรื่องการลงทุน ซึ่งมีตั้งแต่ระดับเริ่มต้น

ข้อแตกต่างของ RMF จากกองทุนรวมทั่ว ๆไป เช่น ต้นลงทุนครบตามเงื่อนไข จึงจะได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ถ้าขายก่อนกำหนดก็ไม่ได้สิทธิ ต้องคืนภาษี ซึ่งตอนนี้รัฐบาลแก้ไขกฏหมายปิดช่องโหว่ง เรื่องที่ต้องถือเกิน ๕ ปี และต้องมีอายุมากกว่า ๕๕ ปีแล้ว ดังนั้นต้องทำตามกฏจึงได้ได้สิทธิ และไม่สามารถโอน จำนำ หรือนำหน่วยลงทุนไปเป็นหลักประกันได้ แต่สามารถย้ายออกทุนต่างๆสลับระหว่างกองทุน RMF ด้วยกันได้ ข้ามบริษัทก็ได้ และทุกกองทุนจะเป็นกองทุนที่ไม่มีการจ่ายเงินปันผล เพราะต้องการให้ใช้เงินตอนเกษียณไงครับ สะสมเงินไว้ใช้ในยามที่ตนเองเกษียณอายุจากการทำงาน เพื่อที่จะสามารถเลี้ยงตนเองได้ในอนาคต ซึ่งสามารถซื้อขายหน่วยลงทุนได้ทุกวันทำการไม่จำกัดจำนวนครั้ง นะครับ

                          scbam ltf

กองทุนรวมหุ้นระยะยาว (Long Term Equity Fund : LTF) เป็นเครื่องมือการลงทุนพิเศษอีกชนิดที่แตกต่างจากกองทุนรวมทั่วไป ก็คือ เงินลงทุนในกองทุนรวมสามารถนำไปลดหย่อนภาษีได้เช่นกองทุน RMF ถือเป็นสิทธิประโยชน์พิเศษที่ผู้ลงทุนจะได้รับนอกเหนือจากผลตอบแทนจากการลงทุน 

LTF เป็นกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ที่จะเน้นการลงทุนในหุ้น ย้ำอีกครั้ง ลงทุนในหุ้น นะครับ และสามารถจ่ายเงินปันผลได้ไม่เกิน 30% ของกำไรสะสม รวมทั้งเปิดให้มีการซื้อได้ตลอด และขายได้ปีละ 2 ครั้งตามช่วงเวลาที่แต่ละกองทุนกำหนด ซึ่งทางการสนับสนุนให้มีกองทุนประเภทนี้ก็เพราะ ต้องการเพิ่มสัดส่วนผู้ลงทุนแบบกองทุนรวมที่จะลงทุนระยะยาวในตลาดหลักทรัพย์ให้มากขึ้น ซึ่งการเพิ่มขึ้นดังกล่าวจะช่วยให้ตลาดทุนไทยมีเสถียรภาพมากขึ้น

กองทุน LTF ต่างๆมีนโยบายการลงทุนแบบเดียว คือ การลงทุนในหุ้นสามัญของบริษัทที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไม่น้อยกว่าร้อยละ ๖๕% ของมูลค่าสินทรัพย์สุทธิของกองทุน โดยแต่ละกอง LTF จะมีรายละเอียดที่แตกต่างกันบ้าง เช่น บางกองเน้นการลงทุนในหุ้นของกลุ่ม SET50 หรือบางกองเน้นหุ้นในตลาด MAI หรือบางกองเน้นบางกลุ่มอุตสาหกรรม ซึ่งแล้วแต่ที่บริษัทจัดการเห็นควรก็ได้ ขึ้นอยู่กับรายละเอียดในนโยบายการลงทุนของกองทุน LTF นั้นๆ ซึ่งผลตอบแทนที่ได้ทั้งกองทุน RMF และ LTF ก็จะแตกต่างกันออกไปตามความเสี่ยงตามนโยบายการลงทุน
 

ซึ่ง LTF เป็นการลงทุนที่ช่วยลดหย่อนภาษี สิทธิประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม  จุดเด่นหลักๆ ก็คือ ลดหย่อนภาษีเพิ่มอีก ๓๐๐,๐๐๐ บาทต่อปีแม้ใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจาก RMF หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ครบ ๓๐๐,๐๐๐ บาทแล้ว และยังได้โอกาสรับผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้น โดยถือครองหน่วยลงทุนเพียง ๕ ปี ก็ถูกต้องตามกฏ โดยนับระยะเวลาลงทุนแบบปีปฏิทิน ไม่จำเป็นต้องลงทุนต่อเนื่องทุกปี ตามเงื่อนไขนะครับ ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ที่ใช้สิทธิประโยชน์ลดหย่อนทางภาษีเพิ่มเติมจากการลงทุนในกองทุน RMF หรือกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ หรือผู้ที่มีฐานภาษีสูง และที่สำคัญคือ เป็นผู้ที่สนใจลงทุนในตลาดหุ้น นะครับ
 

           ltf_5years

เงื่อนไขหลักก็คือการลงทุน ต้องถือครองหน่วยลงทุน ๕ ปี  นับระยะเวลาการลงทุน แบบปีปฏิทิน ซึ่งที่จริงๆเราถือเพียง ๓ ปี บวกอีกไม่กี่วันก็ได้ ถ้าคุณซื้อปลายเดือนธันวาคม และมาขายตอนต้นเดือนมกราคม นับไปอีก ๕ ปีปฏิทิน (ถ้ากองทุนนั้นอนุญาติให้ขายเดือนมกราคมได้นะครับ) และระหว่างทางเรายังสามารถสับเปลี่ยนหน่วยลงทุนได้ ภายใต้กองทุนประเภทเดียวกัน โดยไม่ถือเป็นการขายคืนได้ด้วย และผู้ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษี ก็คือ บุคคลธรรมดาเท่านั้น เราๆท่านๆ จึงมีสิทธิทุกคน

และถ้าจำเป็น ในส่วนกรณีขายคืนกองทุนก่อนครบ ๕ ปี จะต้องเสียภาษีส่วนเกินทุน (Capital Gain) และคืนภาษีที่ได้รับลดหย่อน เฉพาะส่วนที่ขายคืนก่อนครบ ๕ ปี พร้อมเงินเพิ่มตามเงื่อนไขกำหนด และในการขายคืนจะดำเนินการโดยใช้หลักเกณฑ์เข้าก่อนออกก่อน (FIFO) ตรงนี้ต้องระวังมากๆ สำหรับคนที่ชอบสับเปลี่ยนกองทุน

ส่วนเรื่องสรุป คำคัญต่างๆ link นี้ไปก็เข้าใจได้ง่ายดีครับ
 9 คำถามจำให้แม่น กับ RMF และ LTF ถาม-ตอบเกี่ยวกับกองทุนรวมเพื่อการเลี้ยงชีพ และกองทุนรวมหุ้นระยะยาว ว่ามีความหมายอย่างไร รวมถึงข้อแตกต่างของทั้งสองกองทุนว่าแตกต่างอย่างไร มีนโยบายการลงทุนแบบไหน เหมาะกับใครบ้าง รวมถึงสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่ควรรู้. 

ถ้าอ่านมาทั้งหมดแล้วก็ จะเห็นว่า RMF ก็เยี่ยม LTF ก็ดี สรุปก็คือ ลงทุนมันทั้งสองแบบ นั้นแหละครับ เพราะมันถูกออกแบบให้เหมาะสมแตกต่างๆกัน วัตถุประสงค์ก็แตกต่างๆ กัน แต่ถ้าต้องการเลือกประเภทใดประเภทหนึ่ง ข้าพเจ้าของแนะนำว่า ถ้าใครยังที่ทำงานบริษัทแล้ว เขาไม่มี กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ และท่านที่ทำงานอิสระทั้งหลาย ให้ลงทุนแบบ RMF ก็พอ ส่วนถ้ามีเงินเหลือก็ลงทุน LTF ไปด้วยก็เยี่ยม

และส่วนใหญ่ที่ข้าพเจ้าเห็นมา สำหรับคนมีเงินทั้งหลายโดยเฉพาะผู้ที่เสียภาษีในอัตราสูงๆ เช่น ๓๐% หรือ ๓๗% ข้าพเจ้าเห็นเขาซื้อกับเต็มโควต้า ตามกฏหมายกำหนดทุกคนครับ จะไปหาผลตอบแทนที่ไหนได้ดีกว่า RMF และ LTF ไม่มีอีกแล้วครับ เพราะได้กำไร ตั้งแต่ตอนซื้อแล้วครับ ตามอัตราภาษีที่ต้องเสีย ดังนั้นใครที่ต้องเสียภาษี ไม่ว่าจะอัตราใดก็ซื้อเถอะครับ ไม่ผิดหวังแน่ๆ เพราะระยะยาว ยาว ยาว (อย่าไปสนใจตลาดหุ้นรายวันมันก็มีขึ้นๆ ลงๆ เป็นธรรมดา) ไม่มีการลงทุนใดที่ชนะเงินเฟ้อได้ดีเท่าการการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แล้วครับ แม้ว่าเราจะลงทุนทางอ้อม ผ่านกองทุนรวมก็ตาม

ที่สำคัญที่สุดคือ ภาษี น่ากลัวกว่าความตาย เพราะคนตายแล้วยังต้องเสียภาษีนะครับ เราจึงเห็น มีคนหาทาง หลบเลี่ยงกันอย่างที่เห็นตัวอย่างที่ดังๆในจอทีวี ก็มีมากมายนะครับ คนรวย คนดัง คนนั้นแหละ นึกออกไหมครับ ว่าใคร..ดังนั้น การวางแผนภาษีที่ดีจึงสำคัญมากๆ ว่างไว้มาว่ากันเรื่องนี้โดยเฉพาะ

การลงทุนมีความเสี่ยงผู้ลงทุนควรศึกษาหนังสือชี้ชวนและคู่มือภาษีเกี่ยวกับการลงทุนในกองทุนก่อนการตัดสินใจลงทุนนะครับ ..ข้าพเจ้าเอง