พระราชอัจฉริยภาพ ประติมากรรม ร.๙

                     praputnavaratchapopit.jpg

             s053

เนื่องในเทศกาลฉลองครบรอบพระราชสมภพครบ ๘๐ พระชันษา ของในหลวง ร.๙ ในช่วงนี้ ของอันเชิญผลงานของพระองค์ท่านมาให้ดูกัน วันนี้ขอเชิญผลงานทางประติมากรรม ที่ใครๆ ต้องรู้จักมาให้ชมกัน

เป็นที่รู้กันว่าในหลวงทรงปรีชาญาณ มีความสามารถมากมาย งานศิลปกรรมด้านวิจิตรศิลป์ เกี่ยวกับงานประติมากรรม ก็ไม่เป็นที่สองรองใครแน่นอน ดูจากผลงาน พระพุทธนวราชบพิตร ที่ทรงปั้นขึ้น กับพระผงที่ทรงแกะแม่พิมพ์และกดมวลสารด้วยองค์เอง ที่ปัจจุปันเรียกกันว่า พระสมเด็จจิตรลดา หรือ พระกำลังแผ่นดิน แค่เพียงเห็น ๒ รูปนี้ก็เพียงพอต่อการบรรยายทั้งมวลแล้ว

ไปดูรายละเอียดผลงานและงานอื่นที่พระองค์ทรงปั้น ซึ่งไม่ค่อยมีใครรู้จักอีกอย่างน้อย ๒ ชิ้น ตามไปดูได้ที่เครือข่ายกาญจนาภิเษกที่เดิม หรือจะไปดูที่ web http://www.supremeartist.org/ ก็ได้ครับ

และขอคัดลอกบางส่วนจาก “บันทึกความทรงจำของ พล.ต.อ.วสิษฐ เดชกุญชร” : สนพ.มติชน ที่คุ้นๆกันมาให้อ่านอีกครั้ง เรื่องพระสมเด็จจิตรลดา มาเตือน “สติ” กันอีกครับเชิญอ่านดังด้านล่างนี้..ข้าพเจ้าเอง

ในคืนวันหนึ่งของปี พ.ศ.๒๕๑๐(ยศในขณะนั้นพันตำรวจโท) หลังจากได้รับพระราชทานเลี้ยงอาหารค่ำแล้วในวังไกลกังวล ผมจำได้ว่า คืนนั้นผู้ที่โชคดีได้เข้าเฝ้าฯรับพระราชทานพระจิตรลดา เป็นนายตำรวจ 8 นาย และนายทหารเรือ 1 นาย

พระเจ้าอยู่หัว เสด็จลงมาพร้อมด้วยกล่องใส่พระเครื่องในพระหัตถ์ ทรงอยู่ในฉลองพระองค์ชุดลำลอง ขณะที่ทรงวางพระลงบน ฝ่ามือที่ผมแบรับอยู่นั้น ผมมีความรู้สึกว่าองค์พระร้อนเหมือนเพิ่งออกจากเตาภายหลัง เมื่อมีโอกาสกราบบังคมทูลถาม จึงได้ทราบว่า พระเจ้าอยู่หัวทรงสร้างพระเครื่ององค์นั้น ด้วยการนำเอาวัตถุมงคลหลายชนิดผสมกัน เช่น ดินจากปูชนียสถานต่างๆทั่วประเทศ ดอกไม้ที่ประชาชนทูลเกล้าถวายในโอกาสต่างๆ และเส้นพระเจ้า(เส้นผม)ของพระองค์เอง เมื่อผสมกันโดยใช้กาวลาเท็กซ์เป็นตัวยึดแล้ว จึงทรงกดลงในพิมพ์ (อ.ไพฑูรย์ เมืองสมบูรณ์ ซึ่งต่อมาเป็นศิลปินแห่งชาติเป็นผู้แกะถวาย)โดยไม่ได้เอาเข้าเตาเผา

หลังจากที่ได้รับพระราชทานแล้วทรงพระกรุณาพระราชทานพระบรมราโชวาทมีความว่า

“ พระที่ให้ไปน่ะก่อนจะเอาไปบูชา ให้ปิดทองเสียก่อน แต่ให้ปิดเฉพาะข้างหลังพระเท่านั้น ”

พระราชทานพระบรมราชาธิบายด้วยว่าที่ให้ปิดทองหลังพระก็เพื่อเตือนตัวเองว่าการทำความดีไม่จำเป็นต้องอวดใครหรือประกาศให้ใครรู้ ให้ทำหน้าที่เพื่อหน้าที่และถือว่าความสำเร็จในการทำหน้าที่เป็นบำเหน็จรางวัลที่สมบูรณ์แล้ว…..

ผมเอาพระเครื่องพระราชทานไปปิดทองที่หลังพระแล้ว ก็ซื้อกรอบใส่ หลังจากนั้นมา สมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินองค์นั้นก็เป็นพระเครื่องเพียงองค์เดียวที่ห้อยคอผม….

หลังจากที่ไปเร่ร่อนปฏิบัติหน้าที่อยู่ไกลห่างพระยุคลบาท ผมได้มีโอกาสกลับไปเฝ้าฯที่วังไกลกังวลอีก

ความรู้สึกเมื่อได้เฝ้าฯนอกจากจะเป็นความปีติยินดีที่ได้พระยุคลบาทอีกครั้งหนึ่งแล้วก็มีความน้อยใจที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความตั้งใจ ลำบากและเผชิญอันตรายนานาชนิด บางครั้งจนแทบเป็นอันตรายถึงชีวิตแต่ปรากฎว่ากรมตำรวจมิได้ตอบแทนด้วยบำเหน็จใดๆ ทั้งสิ้น

ก่อนเสด็จขึ้นคืนนั้น ผมจึงก้มลงกราบบนโต๊ะเสวยแล้วกราบบังคมทูลว่าใคร่ขอพระราชทานอะไรสักอย่างหนึ่ง….

พระเจ้าอยู่หัวตรัสถามว่า “จะเอาอะไร?” และผมก็กราบบังคมทูลอย่างกล้าหาญชาญชัยว่า จะขอพระบรมราชานุญาตปิดทองบนหน้าพระ ที่ได้รับพระราชทานไปพระเจ้าอยู่หัวตรัสถามเหตุผลที่ผมขอปิดทองหน้าพระ ผมกราบบังคมทูลอย่างตรงไปตรงมาว่า

พระสมเด็จจิตรลดาหรือพระกำลังแผ่นดินนั้น นับตั้งแต่ได้รับพระราชทานไปห้อยคอแล้ว ต้องทำงานหนักและเหนื่อยเป็นที่สุดเกือบได้รับอันตรายร้ายแรงก็หลายครั้งมิหนำซ้ำกรมตำรวจยังไม่ให้เงินเดือนขึ้นแม้แต่บาทเดียวอีกด้วย

พระเจ้าอยู่หัวทรงแย้มพระสรวล (ยิ้ม) ก่อนที่จะมีพระราชดำรัสตอบด้วยพระสุรเสียงที่ส่อพระเมตตาและพระกรุณาว่า

ปิดทองไปข้างหลังพระเรื่อยๆ แล้วทองจะล้นออกมาที่หน้าพระเอง…….

Tags: , , , , , , ,

Leave a comment